ทำไมการปรับเสียงจึงต้องกระทำในทันทีหลังจากที่ซื้อเปียโน |
ก่อนที่เปียโนของยามาฮ่าจะถูกส่งไปยังลูกค้า เปียโนจะได้รับการปรับเสียงและตรวจสอบ
ทุกอย่างซ้ำอีกคือความสมบูรณ์ที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม สตริงของเปียโนต่างถูกขึงให้ตึงจึง
มีโอกาสที่สตริงนั้นจะคลายตัวทำให้โทนเสียงเปลี่ยนไป ดับนั้นในช่วงต้น ๆ จึงจำเป็นต้องมี
การปรับเสียงของสตริงทุกเส้นเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สตริงรักษาความตึงของมันได้อย่างมั่นคง
ซึ่งควรกระทำประมาณปีละ 2-3 ครั้ง อย่างต่อเนื่องตลอดไป |
ทำไมจึงต้องมีการปรับส่วนต่างๆ ของเปียโนเป็นระยะ ๆ |
เปียโนมีสตริงทั้งหมด 230 เส้น แต่ละเส้นต่างรับแรงดึงประมาณ 90 กิโลกรัม เมื่อรวม
แรงดึงทั้งหมดแล้วจะมากกว่า 20 ตัน แรงดึงอันมหาศาลจำนวนนี้จะค่อย ๆ หย่อนลงที
ละน้อย ทำให้เสียงของสตริงบางเส้นเปลี่ยนแปลงเสียงไปจากเดิม อีกทั้งการเคาะของ
สักหลาดเป็นเวลานานจึงทำให้สตริงหย่อนไปเช่นกันในการบำรุงรักษาเปียโนที่ถูกต้อง
นั้น ควรจะมีการปรับเสียงและตรวจส่วนต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ (อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง)
เพื่อให้โทนเสียกลับมาอยู่ในระดับเดิม การดูแลและปรับส่วนต่างๆของเปียโนยังช่วย
ให้มี อายุการใช้งานนานยิ่งขึ้นอีกด้วย |
การบำรุงรักษาเปียโนแบ่งออกเป็น |
1.การดูแลรักษาด้วยช่างจูนเปียดน
1.1 การปรับเสียง (Tuning)
1.2 การปรับและแก้ไขส่วนของ Action
1.3 การปรับแต่งเสียง Voicing
2.การดูแลรักษาด้วยตนเอง |
การให้บริการของช่างจูนเปียโน |
1. Tuning คืออะไร
เปียโนแต่ละตัวจะมีสตริงกำเนิดเสียงอยู่ประมาณ 230 เส้น และเสียงที่ได้จะต้องได้
ระดับตามบันไดเสียงเรียงกันไป Tuning หมายถึง การปรับความตึงของสตริงแต่ละเส้น
ที่ให้เสียงที่ถูกต้องและได้มาตรฐานมากที่สุด และยังกลมกลืนเท่ากันทุกเส้น(แต่ละคีย์
อาจมี 1 หรือ 2 หรือ 3 เส้น ) โดยการปรับความตึงของสตริงที่หมุดปรับเสียงด้วยเครื่อง
มือพิเศษเฉพาะของช่างจูนเปียโนที่ชำนาญเท่านั้น
2. Regulation คืออะไร
Action ของเปียโนประกอบไปด้วยกลไกต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
Regulation หมายถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากันได้อย่างดี เพื่อให้
Action ทำงานได้อย่างถูกต้องสม่ำเสมอ
3. Voicing คืออะไร
เสียงของเปียโนเกิดจากการสั่นของสตริงอาจมีลักษณะต่างกันไป เช่น เสียทุ้มให้
เสียงไพเราะแต่ขาดความมีชีวิตชีวา หรือ เสียงเปียโนที่แข็งกร้าวเกินไป ก็จะไม่น่าฟัง
ดัวนั้น Voicing คือการปรับความสมดุลของโทนเสียงให้อยู่ในระดับพอดีทำให้ไพเราะ
และมีชีวิตชีวา การปรับความสมดุลของเสียงเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทค
นิคพิเศษเฉพาะในการสำรวจความผิดปกติของส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเสียงซึ่งมี
หลายส่วนด้วยกัน แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ ขนาดของฆ้อน ได้ขนาดที่ถูกต้องและ
ความหนาแน่นของสักหลาดจะต้องพิจารณาแต่ละตัวไป ในบางครั้งอาจต้องปรับรูปทรง
ของฆ้อนและความยืดหยุ่นของสักหลาดด้วย |
การดูแลรักษาด้วยตนเอง |
การดูแลรักษาด้วยตนเอง
1. สถานที่ตั้งเปียโน
สถานที่ตั้งเปียโนควรห่างจากผนัง 6-10 นิ้วและมีความชื้น 60% และไม่น้อยกว่า 30 %
อุณหภูมิ 60F - 90 F หรือ 15 C - 25 C
- อย่างวางไกล้ประตูหน้าต่าง
- อย่าวางใต้เครื่องปรับอากาศ
- อย่าวางใกล้แหล่งความร้อน
- พื้นที่วางเปียโนควรเรียบเสมอกัน
2. ระวังความชื้นในสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
- บริเวณที่มีทะเลใกล้เคียง หรือบริเวณที่มีฝนตกชุก
- บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณเชิงเขา
- ในพื้นที่ที่ปราศจากลมพัดผ่านสะดวก |
การบำรุงรักษาประจำวัน |
1.ใช้ผ้านุ่ม ๆ สะอาดเช็ดฝุ่นที่จับอยู่ตามผิวเปียโน
2.ใช้ผ้านุ่ม ๆ คลุมคีย์บอร์ดเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเกาะ ในการทำความสะอาดตัวคีย์
บอร์ดให้ใช้ ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำ ที่ผสมสบู่บิดพอหมาด ๆ เช็ดที่ตัวคีย์บอร์ด ข้อควร
ระวัง อย่าใช้แอลกอฮอล์ ทินเนอร์ หรือน้ำยาเคมี เป็นอันขาด เพราะคีย์บอร์ดอาจ
เกิดความเสียหายได้
3.การบำรุงรักษาผิวที่ได้รับการขัดมัน การทำความสะอาดส่วนนี้สามารถทำได้ทุก
เวลา แต่ควรใช้ขี้ผึ้งซิลิกอน หรือ ครีมสำหรับขัดเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น
4.ควรหลีกเลียงการใช้เครื่องทำความสะอาดที่มีเคมีภัณฑ์อาจสร้างความเสียหาย
แก่ผิวของตัวเปียโนได้
5.ควรตั้งเปียโนห่างจากบริเวณที่มีความชื้นสูง และความร้อนให้มากที่สุด (ความ
ชื้น 50-70%) อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่ดีที่สุดของเปียโน
6.ไม่ควรให้ถูกละอองฝุ่น เพราะความชื้นไม่เพียงแต่จะมีผลต่อเสียงเท่านนั้น ยังมี
ผลเสียต่อส่วนอื่น ๆ อีกด้วยหรือถ้าได้รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรงอาจทำให้
ผิวภายนอกของตัวเปียโนมีสีซีดลงไม่เงางามบางครั้งอาจทำให้ซาวด์บอร์ดแตกร้าว
ได้
7.อย่าวางสิ่งของต่าง ๆ บนเปียโน
8.ระวังความเสียหายจากแมลงและหนูกัดไม้
9.ไม่ควรเคลื่อนย้ายเปียโนบ่อย
10.ควรล้างมือก่อนเล่นทุกครั้ง |