|
มารู้จักกับ Percussion กันดีกว่า |
|
|
ในบรรดาเครื่องดนตรีทั้งหลาย Percussion จัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่มีความหลากหลายและ
เป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาพร้อม ๆ กับมนุษย์เลยทีเดียว เราจะเห็นเครื่องดนตรีประเภทนี้
ในวงดนตรีแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นวง Band หรือวง Orchestra ตลอดจนวง Jazz Band
Percussion นับว่าเป็นเครื่องดนตรีที่พบเห็นได้บ่อยแทบจะในวงดนตรีทุกประเภทคราวนี้ใคร
ที่เล่น Percussion คงจะรู้ตัวแล้วนะว่าเรามีบทบาทสำคัญมากแค่ไหน |
|
|
|
|
|
|
ตระกูล Percussion มีอะไรบ้าง |
|
|
ตระกูลของ Percussion ถ้าจะแบ่งไปแล้วสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะของการกำเนิด
เสียงได้ 2 ลักษณะ คือ
1. Membranophones คือเครื่องที่กำเนิดเสียงได้จากการสั่นสะเทือนของหนังที่ขึงตึงอยู่
บนตัวถัง คราวนี้เราคงเดาออกแล้วว่าได้แก่ พวกกลองทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Snare, Drum,
Bass Drum, Conga ตลอดจนกลอง Timpani เป็นต้น
2. Idiophones คือ เครื่องที่กำเนิดเสียงจากตัวเองโดยการสั่นสะเทือน ได้แก่ ฉาบ, Bell, Xylophone เป็นต้น
เราจะเห็นได้ว่า Percussion นั้นมีความหลายหลายซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะข้าง
ต้นนี้แล้ว ยังแย่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆได้อีก 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. Definite pitch คือ Percussion ที่มีระดับเสียงแน่นอนในตัวเองสามารถตั้งเสียงและ
เล่นเสียงต่าง ๆ ที่มีระดับเสียงแน่นอนได้ เช่น Xylophone, Vibraphone, Timpani เป็นต้น
2. Indenfinite pitch คือ Percussion ที่ไม่มีระดับเสียงแน่นอนในตัวเอง ไม่สามารถ
ตั้งระดับเสียงและระบุระดับเสียงที่แน่นอนได้ เช่น ฉาบ , Snare Drum, Bass Drum,
Tam-Tam เป็นต้น |
|
|
|
|
|
|
เราควรฝึกเครื่องอะไรดี |
|
|
เครื่อง Percussion นั้นมีมากมายอย่างที่เรา ได้รู้จักในเบื้องต้นแล้ว เราควรมาเรียนรู้ เครื่อง
ที่สำคัญ ๆ และ รู้หลักการฝึกพื้นฐานของเครื่อง แต่ละประเภท อันดับแรก ที่เราควรรู้จักเพราะ
นักเล่น Percussion ถือว่าเป็นหัวใจ และนำไปสู่การเล่น Percussion ชนิดอื่น ๆ เครื่องที่ควร
เรียนรู้พื้นฐานอันดับแรก คือ Snare Drum
|
|
|
|
|
|
|
ทำไมเราต้องหัด Snare Drum ก่อน |
|
|
นักเล่น Percussion ถือว่าพื้นฐานการเล่น Snare Drum ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของการจับไม้
ตลอดไปจนถึงเทคนิคการตีแบบฝึกหัดต่าง ๆ ของ Snare Drum ล้วนครอบคลุมและสามารถ
ดัดแปลง ไปเล่น Percussion ประเภทอื่น ๆ ได้ เกือบทุกเครื่องก็ว่าได้ |
|
|
|
|
|
|
มารู้จักกับ Snare Drum
|
|
|
โครงสร้างที่สำคัญของ Snare Drum ในข้อนี้ขอนำมาให้รู้จัก 3 ส่วนสำคัญคือ
1. ตัวถังกลอง / Shell
แต่เดิมจะทำมาจากไม้แท้ ๆ หรือไม้อัด ภายหลังมีการใช้โลหะ หรือวัตถุสังเคราะห์มาใช้
ในการทำตัวถังกลอง วัสดุที่ใช้ทำตัวถึงนั้นจะมีผลทำให้เสียงกลองนั้น ๆ แตกต่างกันออกไป
เช่น ตัวถังที่ทำจากไม้ จะให้เสียง ที่มีน้ำหนักดี (Dark / Warm) นักตีก
ลองส่วนใหญ่ จะนิยมใช้ ตัวถึงไม้กัน ส่วนตัว ถึงที่ทำจากโลหะจะให้เสียงใสกังวาน (Bright)
ซึ่งมี สุ้มเสียงแตกต่างกัน ออกไปแล้วแต่ว่า ใครจะชอบเสียงไหน
2. หนังกลอง / Head
ปัจจุบันส่วนใหญ่ จะใช้พลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ในการทำเพราะสะดวกในการควบคุม
การใช้งานและ ผลิต แต่เดิม หนังกลอง จะใช้หนังสัตว์ โดยเฉพาะ หนังลูกวัวมาทำ ซึ่งยาก
ต่อการควบคุมเสียง ดูแลรักษาสภาพหนัง ตลอดไปจนถึง การหาวัตถุดิบ ที่จะนำมาผลิตหนัง
กลองจำนวนมาก ๆ อีกทั้ง ถ้าสภาพ อากาศเปลี่ยนแปลง หนังกลองก็ จะเปลี่ยนแปลง ตาม
สภาพอากาศ ไปด้วยแน่นอน ที่ว่าเสียงกลองก็เปลี่ยนไปด้วย ทำให้ลำบาก ที่นักตีกลอง จะ
ควบคุมเสียงได้ ดังนั้น หนังที่ทำจากพลาสติก จึงเป็น ที่นิยมแพร่หลาย มากกว่า
3. สาย Snare
เป็นตัวที่ทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของกลองชนิดนี้ วัสดุที่ใช้ในการทำสาย Snare
ในปัจจุบันนี้ มี 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะให้เสียงที่แตกต่างกันออกไปคือ
สายลวด / Wire : จะให้เสียงใสและตอบสนองการสั่นสะเทือนได้ดีนิยมใช้กับกลอง
Concert และกลองชุด
ไส้อ่อน / Gut : เสียงจะมีน้ำหนักและมีความชัดเจนของเสียงคมชัด แต่ดูแลรักษายาก
เพราะจะขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศ เช่นเดียวกับ กลองหนังสัตว์
สายไนลอน / Cable : มีเสียงที่ใกล้เคียงกับสาย Gut มากจะให้สุ้มเสียงที่ใส ความคมชัด
ของเสียงดี และที่สำคัญคือไม่มีปัญหาของเสียง เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง |
|
|
|
|
|
|
มาเรียนรู้การฝึกหัด |
|
|
เริ่มต้นจากการกับไม้กลองถ้าเราจับไม้กลองได้ในท่าทางที่ถูกและเหมาะสมกับสรีระของ
ผู้เล่นจะทำให้เกิดความคล่องตัวและควบคุมการตีกลองได้ดี การจับไม้กลอง Snare Drum
จะมี 2 แบบ ซึ่งการจับที่แตกต่างกันนี้ก็จะทำให้สำเนียงการตีแตกต่างกันออกไปแล้วแต่
ความชอบของบุคคล |
|
แบบที่ 1 Matched Grip เป็นการจับไม้กลองแบบคว่ำมือทั้งสองข้างการจับแบบนี้สามารถ
นำไปประยุกต์ในการจับไม้ตีเครื่อง Percussion อื่น ๆ ได้เกือบทุกประเภท การจับไม้กลอง
แบบนี้เหมาะต่อการตีกลองในแนวระนาบตรง |
|
แบบที่ 2 Traditional Grip เป็นการจับไม้กลองที่เป็นเอกลักษณ์ของกลอง Snare Drum
โดยมือขวาจะจับแบบคว่ำมือ เหมือนกับ Matched Grip แต่มือซ้ายจะจับไม้กลองในลักษณะ
ที่หงายมือขึ้น ลักษณะการจับไม้แบบนี้เหมาะต่อการตีกลองในระนาบเฉียงการจับไม้กลองทั้ง
สอบแบบนี้ จะให้สุ้มเสียงสำเนียงการตี ที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่
กับดุลยพินิจของผู้เล่นว่า จะเลือกใช้แบบใด และโอกาสใด แต่เราต้อง ฝึกฝนการควบคุม การ
ตีทั้งสองมือ ให้ดีจึงจะทำให้ตีกลอง Snare Drumได้เพราะ |
|
|
|
|
|
|
การตีกลอง Snare Drum ให้ดีต้องทำกันอย่างไร ? |
|
|
การตีกลอง Snare ให้ดีนั้นผู้เล่นจะต้องเรียนรู้จักการควบคุมน้ำหนักการตีและควบคุมจังหวะ
การกระดอน (Rebound) ของไม้ทั้งมือซ้าย และมือขวา ให้ชำนาญ และ เกิดความคล่องตัว
ไม่เกรง ก็จะทำให้ ตีกลองได้ดี ข้อสำคัญเราต้องฝึก แบบฝึกหัดพื้นฐานเป็นประจำ กับเครื่อง
กำหนดจังหวะ พร้อมทั้งฟังเสียง และควบคุมน้ำหนัก การตีทั้งดังเบา ให้คมชัดตลอดเวลา แล้ว
ค่อย ๆ เพิ่มความเร็ว ขึ้นเรื่อย ๆ จนชำนาญ แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่า ต้องควบคุมน้ำหนัก และ
การ Rebound ของทั้งสองมือ ให้ดีเสมอ |
แนะนำแบบฝึกหัดพื้นฐานการตี Snare Drum เพื่อควบคุมการใช้มือทั้งสองข้าง |
|
หมายเหตุ : เราควรหาแบบฝึกหัดเพิ่มเติม เพื่อฝึกเทคนิคต่าง ๆ จากตำรา Snare Drum
ทั่วไปรวมทั้งฝึก 40 Drum Rudiments |
|
|
|
|
|
|
Timpani กลองอีกประเภทที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าเครื่องใด ๆ |
|
|
Timpani เป็นกลองที่มีเสียงไพเราะเมื่อฟังทีไรจะรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ กลองชนิดนี้มีขื่อเรียก
อีกชื่อหนึ่งว่า Kettle Drum มีต้นกำเนิดแถบอาหรับแต่เดิมจะผูกห้อยอยู่ที่ตัวม้าใช้ตีเพื่อ
ปลุกเร้ากำลังใจของทหาร ปัจจุบันรูปทรงของกลองชนิดนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก
มีการเพิ่มเติมกลไกเพื่อสะดวกในการตั้งเสียงและเล่นเทคนิคต่าง ๆ
Timpani มีความสำคัญต่อวงคนตรีมากเพราะจะทำให้วงดนตรีนั้นมีสีสันและเสียง ของวง
จะมีน้ำหนักและมิติขึ้นมาอย่างเด่นชัดพร้อมทั้งเป็นเสียงที่แฝงถึงความมีอำนาจความโอฬาร
และสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้เป็นอย่างดี
|
|
|
|
|
|
|
เรามาเรียนรู้การเล่น Timpani กันเลย |
|
|
การตีกลอง Timpani ผู้เล่นพึงยึดปฏิบัติไม่ว่าจะนั่งหรือยืนตี ร่างกายโดยเฉพาะเหนือส่วนเอว
ขึ้นไปจะต้องรู้สึกสบาย ๆ โดยไม้ตีให้ขนานกับหน้ากลอง ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับไม้ตีในจุด
ที่สมดุลของไม้ส่วนนิ้วที่เหลือจะคอยประคองและช่วยในเทคนิคการตีบางประเภท มีข้อสังเกต
ว่าบางกลุ่มจะวางตำแหน่งของนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบนของไม้ตี (French Grip) แต่ก็มีบางกลุ่มที่
มีการจับไม้ที่แตกต่างกันออกไปโดยวางตำแหน่งของนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านข้างของไม้ตี
(American Grip) ทั้งสองแบบนี้เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้กันและมีข้อดีที่ต่างกันแล้วแต่ผู้ใช้จะ
เลือกใช้ |
|
|
|
|
|
|
เทคนิคการฝึกหัด (Timpani) |
|
|
เทคนิคการฝึกตีกลอง Timpani ก็เช่นเดียวกับการตีกลอง snare เราจะต้องรู้จักควบคุม
น้ำหนักการตีพร้อมทั้งควบคุมการกระตอน (Rebound) ของไม้ตีพื้นฐานการตี Stroke แบบ
ฝึกหัด (ควรตีและควบคุมน้ำหนักเสียงใน Dynamics ต่าง ๆ) |
|
แบบฝึกหัด Long Roll เป็นเทคนิคโน๊ตที่ผู้เล่น Timpani พบบ่อย เราจะต้องฝึกแบบฝึกหัดนี้
และควบคุมใช้ไม้ให้ได้ Dynamics และ Tempo ต่าง ๆ โดยใช้ไม้ตีดังนี้
เที่ยวที่ 1 ใช้ไม้ Hard ในการตี
เที่ยวที่ 2 ใช้ไม้ Medium
เที่ยวที่ 3 เปลี่ยนเป็นการใช้ไม้ Soft ในการตี
การฝึกแบบฝึกหัดนี้ควรใช้ไม้ Hard ฝึกก่อนเพราะจะอยากในการผลิตเสียงที่ต่อเนื่องแต่จะ
ง่าย ในการควบคุมการ Rebound และเมื่อเปลี่ยนเป็นไม้ที่นุ่มลงมาจะทำให้ควบคุมการผลิต
เสียงได้ดีขึ้น
|
|
|
|
|
|
|
|
Special Effects & Tecniques |
|
|
แบบฝึกหัด Staccato เป็นอีกแบบฝึกหัดที่สำคัญของ Timpani เราจะต้องเรียนรู้การหยุดเสียง
(Muffle) ซึ่งจะทำให้การตีโน๊ตมีความคมชัด
หมายเหตุ : ในการหยุดเสียงให้ใช้นิ้วแตะลงไปที่ของกลองก่อนแล้วจึงบิดเลื่อนเข้าไปที่หนัง
กลองจะช่วยลดเสียงรบกวน เราควรฝึกในจังหวะช้า ๆ แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความเร็วให้คล่องขึ้น |
|
แบบฝึกหัด Cross-Sticking จะช่วยให้เกิดทักษะการสัมพันธ์ของมือและให้เกิดสำเนียง
จองการตีประโยคเพลง
หมายเหตุ : เราสามารถฝึกทักษะการตีกลอง Timpani ได้จาก Modern Method for Timpani
เรียบเรียงโดย Saul Goodmann |
|
|
|
|
|
|
|
Keyboard Percussion / Mallets คืออะไร |
|
|
Keyboard Percussion หรือ Mallets ก็คือกลุ่ม Percussion ที่มีระดับเสียงแน่นอนตายตัว
มีลักษณะคล้ายระนาดในบ้านเรา กลุ่มของ Mallets แบ่งออกเป็นเครื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. Glockenspiel หรือ Bell มีเสียงแหลมสดใสตัวลูกระนาดทำจากโลหะ มีขนาดเล็ก
ที่สุดในบรรดากลุ่ม Mallets
2. Xylophone ระนาดไม้ฝรั่งตัวลูกระนาดทำจากไม้ในปัจจุบันมีการใช้วัสดุสังเคราะห์มา
แทน
3. Vibraphone มีรูปร่างคล้าย Xylophone แต่ลูกระนาดทำจากโลหะมีการใช้ Motor หมุน
ทำให้เสียงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีน้ำเสียงใสทุ้มลึกน่าฟัง
4. Marimba เป็นระนาดไม้ฝรั่งที่มีขนาดใหญ่ เสียงจึงทุ้มลึกมีมิติน่าฟังมาก ปัจจุบันมีการ
ใช้วัสดุสังเคราะห์มาทำลูกระนาด เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษา กลุ่มเครื่องดนตรีประเภท
นี้มีความสำคัญมากและมีเทคนิคการเล่นเฉพาะตัวซึ่งนักเล่น Percussion ควรฝึกฝนเทคนิค
การเล่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากกลุ่มเครื่องตีอื่น ๆ พวกกลุ่ม Mallets นี้จะทำหน้าที่เล่นเป็นแนว
ทำนอง ตลอดจนเล่นโน๊ตที่เป็นคอร์ดได้ ผู้เล่นสามารถจับไม้เพื่อใช้ตีตั้งแต่ไม้เดียวไปจนถึง
กระทั่ง 5-6 ไม้ (Multiple-Mallet Grips) ในการเล่นคนเดียว ซึ่งเปรียบกับผู้เล่น Piano
ผู้เล่นสามารถใช้นิ้วทั้งสิบนิ้วเล่นทั้งแนวทำนองและคอร์ดเสียงประสานไปได้ พร้อม ๆ กับ
ผู้เล่น Mallets ก็เช่นเดียวกันจะต้องฝึกฝนการจับและควบคุมนิ้วในการใช้ไม้ตีหลายไม้ |
|
|
|
|
|
|
เทคนิคการจับไม้ตี Mallets / Keyboard Percussion |
|
|
การจับไม้แบบนี้เราจะต้องฝึกการใช้มือข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างจับไม้ตั้งแต่ 2 ข้างขึ้น
ไปในการเล่น โดยเราควรมีพื้นฐานของการจับไม้แบบธรรมดาเสียก่อน จึงจะมาฝึกการจับแบบ
Multiple-Mallets การจับไม้แบบนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ
แบบที่ 1 Cross Grip เป็นแบบฉบับดั้งเดิมของการจับไม้ Multiple-Mallets ผู้ที่เริ่มฝึกควรเริ่ม
ต้นจับไม้แบบนี้ก่อนซึ่งการจับแบบนี้จะเหมาะต่อการตีโน๊ตประเภท Block Chords
แบบที่ 2 Independent Grip เป็นการจับไม้ Multiple-Mallets ที่นิยมใช้กันมากโดยเฉพาะใน
การเล่น Marimba การจับไม้แบบนี้ถือเป็นหัวใจและเป็นเทคนิคที่สำคัญของการเล่นทีเดียว
การจับไม้แบบนี้ผู้เล่นสามารถแยกการควบคุมไม้แต่ละไม้ได้ เป็นเอกเทศซึ่งกันและกัน วิธีการ
จับไม้ก็เริ่มต้นโดยจับไม้ที่หนึ่งอยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ในลักษณะเดียวกับการจับไม้กลอง
ส่วนนิ้วกลางให้แตะอยู่ที่ปลายเพื่อช่วยพยุงไม้เอาไว้ ไม้ที่สองจะใช้นิ้วนางและนิ้วก้อยกับยึด
เอาไว้ กับฝ่ามือ |
|
|
|
|
|
|
|
แบบฝึกหัดเบื้องต้นในการฝึก Multiple-mallets |
|
|
เราสามารถฝึกฝนแบบฝึกหัดเพิ่มเติมได้จาก Method of Movement for marimba เรียบ
เรียงโดย Leigh Howard Stevens ซึ่งจะรวมแบบฝึกหัดต่าง ๆ กว่า 500 บท เราจะเห็นว่า
Percussion เป็นกลุ่มเครื่องดนตรีที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีหรือแบบฝึก
หัด เราต้องค้นคว่าและลองเข้าไปสัมผัสจะทำให้เรารู้ว่ากลุ่มเครื่องดนตรีประเภทนี้น่าอัศจรรย์
และน่าสนใจเพียงใด |
|
|
|
|
|
|